วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับที่นอนมากมายหลากหลายแบรนด์ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อที่นอนใหม่ของคุณให้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งพูดเลยว่าแต่ละแบรนด์เขาจะมีจุดเด่นและข้อแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณเป็นหลัก ว่าต้องการแบบไหน อ่ะ! เราไปดูกันเลยดีกว่า ^^
1. เริ่มที่แบรนด์ APP กับเตียงนอนปรับประดับเพื่อไม่ให้เตียงนอนเป็นแค่เรื่องของการนอนหลับอีกต่อไป
คุณสามารถปรับระดับความนอนได้ตามใจ ไม่ว่าคุณต้องการที่จะดูหนัง หรือพักผ่อนใดๆได้ในท่าที่สบายที่สุดได้ และยังช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทยิ่งขึ้นด้วยเตียงปรับระดับสุดยอดแห่งเทคโนโลยีนี้รับรองได้ว่าการนอนหลับได้อย่างสนิทสบายตลอดทั้งคืนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
2. แบรนด์ SYNDA กับที่นอน Synda รุ่น Body Perfect
ที่นอนระบบ Micro Offset spring ด้วยลูกสปริงทรงสี่เหลี่ยมหน้าตัด ที่มีลวดสปริง ขนาดใหญ่กว่าสปริงทั่วไป ผลิตจากเหล็กกล้า High Tensile Carbon ชนิดพิเศษ ที่ผ่านความร้อนสูง เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเหล็กมากขึ้น ผนวกกับเส้นลวดที่พันยึดติดสปริงทุกด้านทาให้ทนต่อแรงต้านได้อย่างสมดุล ขจัดปัญหาที่นอนยุบตัวเป็นแอ่ง มีความยืดหยุ่นสูง รองรับน้น้ำหนักได้ดีและสมดุล ให้การนอนเป็นการพักผ่อนได้ในทุกอิริยาบถ
3. แบรนด์ Springmate กับที่นอน รุ่นพาสทอเรีย (Pastoria)
ที่นอนที่มาพร้อมกับการออกแบบลวดลายอย่างปราณีต เรียบหรู อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบรองรับน้ำหนักด้วยสปริงแบบพ็อคเก็ต (Pocket Spring) ที่รองรับสรีระได้ดี โดยเฉพาะบริเวณที่รองรับน้ำหนักของผู้นอน จึงหมดปัญหาเรื่องการพลิกตัวทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับของอีกฝ่าย จึงช่วยให้ผู้นอนสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่่ตลอดคืน
4. แบรนด์ DUNLOPILLO กับที่นอนรุ่น SHEFFIED
ที่นอนที่พร้อมให้คุณทิ้งร่างกาย ความเหนื่อยล้า ความอ่อนล้า มาพักผ่อนไปกับระบบสปริง Firma Luxe Coil ® 3970 – Series ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศอังกฤษ ที่ถูกจัดเรียงเป็นแนวขนานในองศาต่างๆเพื่อรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี พร้อมมอบความยืดหยุ่น และลดแรงกดทับ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นสัมผัสที่แน่นด้วยโครงสร้างลูกสปริงแบบทรงกลม แผ่น Body Care Topper โฟมเนื้อพิเศษนำเข้าจากประเทศอังกฤษ High Density ระบายอากาศได้ในตัว ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และมีส่วนช่วยให้อากาศไหลเวียนได้อย่างอิสระไม่ทำให้เกิดอาการแพ้เหมาะสำหรับบุคคลที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย
5. แบรนด์ OMAZZ กับ ที่นอนรุ่น Organique Plus
เป็นการผสมผสานระหว่างOmazz Organique Topper พิเศษ 2 ชั้น ลดแรงกดทับ และComfort layer เนื้อโฟม Omazz Organique Foam สกัดจากน้ำมันพืชธรรมชาติพร้อมโครงสร้างเนื้อโฟมแบบรวงผึ้ง แบบเซลเปิดระบายอากาศได้อย่างดี วางบนสปริงSuper Bonnel Coil หุ้มขอบโฟมทั้งสี่ด้านเพื่อป้องกันการล้มตัวของลูกสปริง และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ที่นอนหุ้มด้วยผ้าคอตตอน Knit เคลือบสารปกป้องจากธรรมชาติ Sanicott ที่นอนจะมีความแน่น แต่ยืดหยุ่นเวลาทิ้งตัวบนที่นอนเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ปวดหลังเวลานอน ความปราณีตในการผลิตด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม (Hand-made) การประกอบที่นอนแบบดั้งเดิมด้วยมือ พร้อมใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น กาวสูตร “น้ํา” (Water-based) เพื่อให้มั่นใจความบริสุทธิ์สะอาดของชั้นวัสดุทุกชั้นในที่นอนโอมาซอย่างแท้จริง
6. แบรนด์ LOTUS กับ ที่นอนรุ่น COLEMAN
ที่พร้อมให้คุณทิ้งความเหนื่อยล้าไปกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยฐานรองรับน้ำหนัก Miracle Foam® โฟมวิทยาศาสตร์อัดแน่นพิเศษ พร้อมค่าแรงดันสะท้อนที่สูง (high push-back support) สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี มาพร้อมกับระบบสปริง LOTUS SUPER BONNEL® Series: 6 Turns (7”) Super Firm รองรับน้ำหนักที่มากเป็นพิเศษและยืดหยุ่น ด้วยการรับน้ำหนักแนวดิ่งแต่กระจาย หรือสลายแรงกดทับในแนวนอนรอบทิศทางของลูกสปริง นอกจากนี้ยังมี แผ่น Stressfree โฟมแบบนุ่มแน่น 20 mm. ใย Conjugate Hollo Fill I Fibre 200 gsm พร้อมโครงสร้างรูระบายอากาศ 5 เซลล์และระบบ Auto Air Circulation® ระบายอากาศอัตโนมัติ แบบต่อเนื่อง ผ่านชั้นวัสดุที่มีโครงสร้างระบายอากาศอย่างดี ทำให้นอนหลับสบายไม่อับชื้น เสริมด้วย Sanicare® สารสกัดจากพืชผักธรรมชาติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นถาวรAllergy Protection ปกป้อง และป้องกันภูมิแพ้ Aloe-Vera® สกัดจากว่านหางจระเข้ คืนความชุ่มชื่นให้ผิวคุณ เพียงเท่านี้ปัญหาเรื่องการนอนหลับจะไม่มีอีกต่อไป
7. แบรนด์ Slumberland กับที่นอน รุ่น Atalanta สำหรับผู้รักการวิ่ง และปั่นจักรยาน
สำหรับนักปั่นหรือนักวิ่ง ที่ต้องเกร็งลำตัวเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ พร้อมๆ กับอาการบาดเจ็บทั่วร่างกายส่วนล่าง ที่นอนรุ่น Atlanta มอบความเย็นสบาย ช่วยผ่อนคลายร่างกายที่อ่อนล้า พร้อม Topper ยางพาราคุณภาพสูงหนาถึง 3 นิ้ว ให้สัมผัสเย็นสบายและผ่อนคลาย ด้วย 7 Zone Latex ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระและน้ำหนักของร่างกายทุกส่วน ผลิตจากยางพาราเกรด A คุณภาพสูง ช่วยบำบัดแผ่นหลัง สะโพก ขา และหัวเข่าที่อ้อนล้าในขณะที่คุณหลับ เคลือบสาร Anti-Mite Dust ป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย เทคนิคการ Quilting ลายเหลี่ยมสลับเพื่อช่วย Support หลังและสะโพก
8. แบรนด์ LUCKY กับที่นอนรุ่น Auburn
เป็นที่นอนระบบ Double Conical Spring ที่มีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักจากร่างกายและประคองสรีระได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังใช้ผ้าหุ้มอย่างดีจากดีไซน์เนอร์เบลเยี่ยม ที่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้คุณนอนหลับได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล
9. แบรนด์ SEALY กับที่นอน Premier Hybrid รุ่น Eternity
ที่นอนที่เสริมชั้นพิเศษด้วย OptiCool™ เจลเมมโมรี่ท็อปเปอร์ ซึ่งมี Cooling Gel ที่ถูกผสมผสานลงไปในชั้นวัสดุ เพื่อช่วยดูดซับความร้อนส่วนเกินจากร่างกายและเพิ่มความนุ่มสบายมากขึ้น จึงช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายอยู่ในช่วงคอมฟอร์ทโซน เกิดความสมดุลในขณะนอนหลับ และเพิ่มการรองรับด้วยเมมโมรี่โฟมที่ดีเยี่ยมในส่วนตรงกลางของที่นอนด้วย CoreSupport™ Premier Center พร้อมระบบ SolidEdge™ เสริมความแข็งแรงบริเวณขอบที่นอน จึงทำให้คุณมั่นใจได้ในประสิทธิภาพของการรองรับเพื่อการนอนหลับอย่างสบายตลอดคืน
--------
มาถึงตรงนี้ทางเราไม่สามารถบอกได้ว่าที่นอนแบบไหนดีกว่าแบบไหน ขึ้นอยู่กับความต้อง และ รูปแบบการนอนของแต่ละคน แต่ถ้าคุณยังไม่ชัวร์ว่าจะเลือกที่นอนประเภทไหนดี สามารถไปทดลองนอนกับที่นอนจริง ได้ที่ SB Design Square ทุกสาขาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ กับ Mattress All Brand Sale ที่นอนเริ่มต้นเพียง 8,900.- ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 61 – 31 ก.ค. 61 นี้
